หน้าหลัก....Log in สมาชิก....Log in ฝ่ายบริหาร....ความเป็นมา....PWDOM....ติดต่อเรา
.........................................................................................................................................................................................

ปิดโครงการเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2551

..........

โครงการหางานเพื่อเพื่อนผู้พิการ ครั้งที่ 1

.

วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2551

สัมภาษณ์คุณทรงวิทย์ (โหงว) ถึงความรู้สึกที่มีลูกค้าตอบรับเป็นอันดับ 1 (ณ วันที่ 28/3/2551)

คุณทรงวิทย์ หรือโหงว ซึ่งเป็นสมาชิกของโครงการนี้ในตำแหน่ง "คีย์ข้อมูล" ที่สำนักงานปากเกร็ด แต่เป็นเพราะว่า ทางฝ่ายบริหารมีการปรับแผนงานด่วนคือให้ทีมงานในสำนักงาน มาทำหน้าที่โทรหาลูกค้าเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยไล่ข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าระบบไปแล้วหลายหมื่นหมายเลข จึงเกิดผลออกมาว่า อันดับที่ 1-3 เป็นสมาชิกที่สำนักงานปากเกร็ดทั้งหมด ดังนั้นบทความนี้ ผมจึงขอสัมภาษณ์คุณโหงว เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนสมาชิกที่อาจจะกำลังท้ออยู่ เมื่อถูกปฏิเสธ หรือสมาชิกที่ยังไม่ได้ลงมือทำเลย เริ่มกันเลยนะครับ



ความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมโครงการ

ผมชื่อ ทรงวิทย์ เลิศวไลพงศ์ นะครับ บ้านอยู่ท่าพระ ฝั่งธนฯ (เกริ่นเป็นยี่เก) พิการโปลิโอ ขา 2 ข้าง ก่อนเข้าร่วมโกรงการ อาชีพล่าสุดของผมคือทำกระเป๋าหนังขาย ซึ่งก็จะเอาเศษหนังมาทำ รายได้ไม่แน่นอน

จนผมได้ข่าวจากเพื่อนคนหนึ่งว่าจะมีการรับสมัครผู้พิการเพื่อทำงานร่วมกับทางบริษัท Hutch ก็เลยลองสมัครดู โดยก่อนเริ่มงานก็มีการอบรมกันในวันที่ 14 มี.ค.

วันนั้นเป็นวันแรกที่ได้เจอเพื่อนร่วมทีมงานที่ร่วมโครงการนี้ ซึ่งเพื่อนๆ ที่มากันแต่ละคนนั้น มีความหลากหลายของความพิการ แต่ที่เหมือนกันคืออยากที่จะมีงานทำ งานอบรมวันนั้นผมดีใจอย่างมากเลยที่รู้ว่าโครงการนี้ รับผู้พิการทุกประเภท และรับทุกคน

ซึ่งน่าจะเป็นโครงการแรกเลยที่ผมเคยรู้มา ถึงแม้จะเป็นโครงการระยะสั้น 2-3 เดือน แต่ผมก็ภาคภูมิใจนะครับ ที่เป็นส่วนหนึ่งในโครงการเพื่อสังคม และ ก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมสังคมที่ให้โอกาสเช่นกัน



ความรู้สึกที่ได้คุยกับลูกค้า

ก่อนที่ผมจะเข้าร่วมโครงการนี้ ผมจะมีรายได้จากการทำกระเป๋าหนังขาย ซึ่งตอนนำไปขายผมก็วางกระเป๋าอย่างเดียวไม่ค่อยเรียกลูกค้า จนเพื่อนๆที่ทำร่วมกันส่ายหัวระอา แต่โชคดีมากที่ผมมาเริ่มงานที่ PWDOM ในตำแหน่งคีย์ข้อมูลเพื่อให้เพื่อนทางบ้านดึงข้อมูลผ่านเนตไปโทรหาลูกค้า

แต่วันหนึ่งเมื่อทางบริษัท ลองให้โทรหาลูกค้าบ้าง ผมก็ใจไม่ดีเลย ซึ่งวันแรกผมโทรหาลูกค้าเป็นร้อย แต่ลูกค้า NO. ตลอด ถ้าเป็นไปได้นะครับ ผมจะเอามือของผมทะลุเข้าไปมือถือของลูกค้าเพื่อจับปากลูกค้าให้พูด YES. บ้าง มันกดดันพอควร แต่โชคดีอย่างหนึ่งคือผมได้รับการ อบรมในวันที่ 14 มี.ค. มาก่อน ก็ลองใจเย็นๆๆ พูดช้าๆ ชัด ๆ ก็ได้ผลระดับหนึ่ง

ซึ่งถ้าเป็นลูกค้าอารมณ์ดี ใจดี ก็เริ่มมี YES บ้าง ซึ่งเริ่มมีกำลังใจ แต่พอเจอกลุ่มลูกค้าที่วุ่นๆ อยู่ กำลังใจก็จะห่อเหี่ยวอีก ซึ่งกลุ่มนี้มักจะตอบ NO สุดท้าย ผมว่ามันก็ดีเหมือนกันนะครับเพราะเป็นจุดหนึ่งที่จะพัฒนาความสามารถของเราจากความหลากหลายของลูกค้าที่เราติดต่อด้วย

.............................................................
.
เป็นอย่างไรบ้างครับเพื่อนสมาชิก ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของคุณโหงวแล้ว คงจะเห็นแล้วนะครับว่า การถูกลูกค้าตอบปฏิเสธนั้นเป็นเรื่องปกติ การที่ลูกค้าตอบรับก็เป็นกำลังใจ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการเปิดใจของตัวเอง มองโลกในแง่ดี ในสิ่งที่เรากำลังได้รับมอบหมาย หรือ ตามที่พวกเราทุกคนยินดี และเต็มใจในการเข้าร่วมโครงการ
.
ผมหวังว่ากรณีศึกษาของคุณโหงว คงจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆ คนได้ลองทำงานนี้ดูก่อนอย่างเต็มที่ ลองแบ่งเวลาดูนะครับ อย่ากลัวการถูกปฏิเสธ และต้องข้ามผ่านตัวเราเองไปให้ได้ สู้ๆ ครับ
.
ขอบคุณครับ
ทีมงาน PWDOM

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น